การจัดงานศพ ที่ Susarn เรามีข้อมูลครบจบในเว็บเดียว

Susarn เว็บที่รวมวิธีการจัดงานศพ

การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตที่เราทุกคนต้องเผชิญ ตอนที่เป็นเด็ก การจากลาไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะทำให้คุณเศร้าโศก แต่ความรู้สึกของการจากลาเมื่อตอนโต การผูกพันกับใครสักคนอาจทำให้เรามีโอกาสสูญเสียบุคคลที่สำคัญในชีวิตไป แต่เมื่อความตายเป็นความจริงของชีวิต เราต้องพร้อมที่จะยอมรับ และต้องศึกษาขั้นตอนการจัดงานศพเมื่อคนที่คุณรักจากโลกนี้ไป ทำให้ไม่ต้องเกิดความกังวลเกี่ยวกับการจัดงานศพทำให้ดำเนินงานไปตามปกติและราบรื่น เว็บ Susarn ได้รวมขั้นตอนการจัดงานศพ สำหรับคนที่ยังไม่เคยผ่านการจัดงานศพมาก่อน ได้ศึกษาขั้นตอนกัน

ขั้นตอนการจัดงานศพ ครบทุกขั้นตอน

  1. แจ้งตายและขอใบมรณะบัตร
    เมื่อมีผู้สิ้นลมหายใจ หรือผู้เสียชีวิต สิ่งแรกที่ผู้เป็นญาติต้องทำ คือ การแจ้งตาย โดยแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ เสียชีวิตที่โรงพยาบาล และ เสียชีวิตที่บ้าน ซึ่งทั้ง 2 กรณี วิธีการจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ดังนี้
    • เมื่อเสียชีวิตที่โรงพยาบาล : ทางโรงพยาบาลจะทำการออกหนังสือรับรองการเสียชีวิตให้ เพื่อที่ญาติของผู้เสียชีวิตได้นำไปรวมกับเอกสารอื่น ๆ ของผู้ตาย เช่น บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน นำไปยื่นให้กับสำนักทะเบียนท้องถิ่นหรือที่ทำการเขต ให้ทำการออกใบมรณะบัตร ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเสียชีวิต
    • เมื่อเสียชีวิตที่บ้าน : ผู้เป็นญาติต้องเดินทางไปแจ้งการตายที่สถานีตำรวจ เพื่อให้ออกหนังสือรับรองการเสียชีวิต หลังจากนั้นนำไปยื่นเพื่อขอใบมรณะบัตรต่อที่สำนักทะเบียนท้องถิ่นหรือที่ทำการเขต
  2. ติดต่อวัด เพื่อนำศพมาบำเพ็ญกุศลตามความเชื่อทางศาสนา
    เมื่อได้ใบมรณะบัตรเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมา คือ การติดต่อวัดที่ต้องการนำร่างผู้เสียชีวิตไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพ และเมื่อได้วัดที่ต้องการแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องนำร่างมาที่วัด โดยอาจจะติดต่อวัด หรือโรงพยาบาลให้จัดหารถให้
    สิ่งสำคัญในการเคลื่อนขบวนศพนั้นควรมีญาติหรือลูกหลานของผู้เสียชีวิต ถือกระถางธูป และรูปของผู้ตายนำหน้า ส่วนด้านหลังก็ควรนิมนต์พระสงฆ์อย่างน้อย 1 รูป ถือสายสิญจน์ที่โยงออกมาหน้าโลง เพื่อชักศพและนำทางดวงวิญญาณมาที่วัด
  3. พิธีรดน้ำศพ และจัดร่างที่ไร้วิญญาณใส่โลงศพ
    เมื่อเคลื่อนร่างที่ไร้วิญญาณมาถึงวัดแล้ว ขั้นตอนต่อมา คือ การรดน้ำศพ โดยควรจะตั้งเตียงรดน้ำศพไว้ทางด้านซ้ายมือของโต๊ะหมู่บูชาพระรัตนตรัย และจัดให้โต๊ะหมู่บูชาอยู่ด้านบนของศีรษะผู้เสียชีวิต
    จัดร่างที่ไร้วิญญาณให้นอนหงาย โดยนำผ้าห่มหรือผ้าแพรคลุมไปทั่วร่างยกเว้นบริเวณใบหน้าและมือขวา เพื่อรับการรดน้ำศพจากญาติ ๆ และผู้ที่มาร่วมแสดงความอาลัย โดยเราในฐานะที่เป็นเจ้าภาพ ต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น น้ำอบ น้ำหอม ขันขนาดเล็กสำหรับตักไปรดน้ำศพ และขันขนาดใหญ่เพื่อรองรับน้ำที่รดมือศพ
    โดยความเชื่อที่มีมานาน เจ้าภาพควรจุดเครื่องสักการบูชาพระรัตนตรัยก่อน แล้วจึงรดน้ำศพได้ และเวลาที่เหมาะสมสำหรับพิธีนี้คือช่วง 16.00 – 17.00 น. หลังจากนั้นก็สามารถจัดร่างใส่โลงศพพร้อมทำพิธีต่อไปได้เลย โดยส่วนมากจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของวัด
  4. พิธีสวดอภิธรรมศพ
    ขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างว่า การสวดหน้าศพ และเจ้าภาพสามารถจัดเตรียมกับวัดว่าต้องการจะสวดอภิธรรมเป็นเวลากี่วัน หรือในทางศาสนาคริสอาจจะมีการตกลงว่าจะมีเพลงนี้บรรเลงในความทรงจำของผู้ตาย โดยส่วนใหญ่เจ้าภาพมักนิยมสวดกัน 1 คืน, 3 คืน, 5 คืน, 7 คืน เป็นต้น
  5. พิธีฌาปนกิจศพ
    หลังจากสวดอภิธรรมศพเสร็จสิ้นตามวันที่กำหนดไว้กับวัดแล้ว ก็ถึงเวลาเผาศพหรือเผาศพ หรือ ฌาปนกิจศพ แต่การให้เอาศพออกจากศาลาวัด ต้องวนศพผ่านรอบเมรุก่อน โดยเริ่มจากบันไดทางขึ้นเมรุไปทางขวาทั้งหมด 3 รอบ โดยขบวนแห่ควรจะเรียงลำดับตามนี้ คือ พระ กระถางธูป รูปภาพ ศพ ญาติ
    เมื่อวนครบ 3 รอบ เจ้าหน้าที่ก็จะนำโลงที่บรรจุศพตั้งไว้หน้าเมรุเพื่อให้ญาติ ๆ และผู้ที่มาร่วมงานได้กล่าวอำลาแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ร่างนั้นจะกลายเป็นเพียงผงธุลี โดยมีสิ่งที่เจ้าภาพอาจจะต้องเตรียม คือ เครื่องไทยธรรม เครื่องไทยธรรมผ้าไตร ผ้าสบงถวายพระสวดมาติกาบังสุกุล ดอกไม้จันทน์ และของชำร่วย เมื่อทำการอำลาโดยวางดอกไม้จันทน์ครบทุกคนจึงเข้าสู่ขั้นตอนการเผาศพต่อไป
  6. การเก็บอัฐิ
    การเก็บอัฐิจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ เก็บในวันเผา หรือ เก็บในวันรุ่งขึ้น ซึ่งขั้นตอนนี้เจ้าภาพจำเป็นต้องแจ้งเจ้าหน้าที่วัดให้ทราบไว้เช่นกัน และต้องจัดเตรียมโกศบรรจุอัฐิ น้ำอบ ดอกไม้ และอาหารคาวหวานเพื่อถวายพระสงฆ์ที่มาบังสุกุลให้ โดยการเก็บอัฐิใส่โกศนั้นนิยมเก็บทั้งหมด 6 ชิ้น ได้แก่ กะโหลก 1 ชิ้น แขน 2 ชิ้น ขา 2 ชิ้น ซี่โครงหน้าอก 1 ชิ้น ส่วนอัฐิที่เหลือ นิยมกวาดรวมกันและบรรจุใส่หีบไม้และนำผ้าขาวห่อเก็บไว้ เพื่อนำไปเก็บไว้หรือนำไปลอยแม่น้ำต่อไป
  7. การลอยอังคาร
    เมื่อเก็บอัฐิแล้ว เจ้าภาพส่วนใหญ่นิยมนำเศษอัฐิไปลอยในแม่น้ำตามความเชื่อที่ว่า เมื่อนำอัฐิไปลอยน้ำ จะทำให้ผู้ล่วงลับสงบสุข มีชีวิตในอีกภพภูมิที่ร่มเย็นดั่งสายน้ำ และอีกหนึ่งความเชื่อที่ว่าร่างกายคนเราเกิดจากธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งเมื่อสลายแล้วก็ควรให้กลับไปอยู่ในที่เดิมที่เคยจากมา
จัดงานศพ
การจัดงานศพ
การจัดงานศพ

มั่นใจ การจัดงานศพ

Susarn

เรามีทีมงานที่เชี่ยวชาญ

Susarn มีทีมงานมืออาชีพคอยให้บริการ ดูแลทุกขั้นตอน

ควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน

Susarn ตรวจสอบงานทุกขั้นตอน

บริการรวดเร็ว ทันใจ ครบทุกขั้นตอน

Susarn ให้บริการที่มีความรวดเร็ว ทันใจ ไม่ต้องรอนาน

การจัดงานศพของศาสนาต่างๆ

พิธีกงเต็ก

ประเพณีจีน พิธีกงเต็ก พิธีงานศพชาวจีน

ประเพณีจีน พิธีกงเต็ก ถือได้ว่าเป็นวิธี การทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับซึ่งจะเป็น ประเพณีจีน ที่มีมาแต่โบราณโดยส่วนหนึ่งจะเป็นเจตนาในการส่งดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับให้ไปสู่สรวงสวรรค์ โดยรูปแบบของ พิธีกงเต็ก นี้จะมีรูปแบบ หรือรากฐานมาจากตามแนวความเชื่อทางจากแนวทางพุทธศาสนา

อ่านต่อ »
งานศพคริส

งานศพคริส พิธีกรรมเพื่อการจากไปของผู้ล่วงลับ

สำหรับในพิธี งานศพคริส นั้นจะเป็นรูปแบบของงานที่มีการจัดขึ้นในกรณีที่มีการจากไปของผู้ล่วงลับที่ได้มีการนับถือศาสนาคริส โดยพิธีการทางศาสนาในส่วนนี้จะนิยมใช้วิธีการในการฝังร่างของผู้ล่วงลับลงใน โลงศพ ก็จะเป็นรูปแบบที่มีความ คล้ายคลึงกัน หรือแตกต่างกันไปในแต่ละศาสนาเป็นสิ่งสำคัญแล้วนั้น ก็จะเป็นการแสดงความเคารพการแสดงความอาลัยให้กับการจากไปของผู้ล่วงลับในท่านนั้น ๆ

อ่านต่อ »
งานศพอิสลาม

การจัดพิธี งาน ศพ อิสลาม หลักศาสนา และความเชื่ออิสลาม

ในพิธี งาน ศพ อิสลาม ส่วนหนึ่งของคติความเชื่อตามหลักศาสนาของอิสลามนอกเหนือจากพิธีกรรมในการ ฝังศพ แล้วยังจะมีความเชื่อทีจะมีต่อในเรื่องของความตาย ที่ยังไม่ได้ถือได้ว่าเป็นจุดสิ้นสุดของการมีชีวิตแต่ประการใด หากจะมองได้ว่านั่นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการที่ท่านจะได้ก้าวเข้าไปสู่ในรูปแบบของชีวิตที่แท้จริง ซึ่งในส่วนนี้ตามหลักความเชื่อของทางศาสนาของ

อ่านต่อ »

บทความการจัดงานศพ