ประเพณีจีน พิธีกงเต็ก ถือได้ว่าเป็นวิธี การทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับซึ่งจะเป็น ประเพณีจีน ที่มีมาแต่โบราณโดยส่วนหนึ่งจะเป็นเจตนาในการส่งดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับให้ไปสู่สรวงสวรรค์ โดยรูปแบบของ พิธีกงเต็ก นี้จะมีรูปแบบ หรือรากฐานมาจากตามแนวความเชื่อทางจากแนวทางพุทธศาสนา แนวทางศาสนาเต๋า และรูปแบบแนวทางลัทธิขงจื้อ ทั้งนี้รูปแบบของ ประเพณีจีน พิธีกงเต็ก นั้นอาจจะไม่ได้เกิดขึ้น หรือพบเห็นได้บ่อยครั้ง นั้นเนื่องจากว่าในการจัดงานพิธีในลักษณะนี้จะกำหนดให้มีการจัดได้ก็ต่อเมื่อผู้ล่วงลับจะต้องมีอายุ 70 ปีขึ้นไป และจำเป็นต้องเป็นการเสียชีวิตตามธรรมชาติ หรือจากโรคภัยไข้เจ็บโดยทั่วไป ทั้งยังจะต้องมีการแต่งงานมีลูกหลาน และมีครอบครัว และกรณีในกรณีที่ผู้เสียชีวิตได้มีการจากไปก่อนวัยอันควร หรือมีอายุต่ำกว่า 70 ปี และอาจมีการเสียชีวิตอันเกิดมาจากอุบัติเหตุ การถูกฆาตกรรม การฆ่าตัวตาย หรือการเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติใด ๆ ก็ตามจะไม่สามารถให้มีการประกอบ ประเพณีจีน พิธีกงเต็ก ได้โดยในประเทศไทยนั้น คณะสงฆ์ซึ่งจะประกอบพิธีในส่วนนี้จะสามารถแบ่งแยกได้เป็น 2 นิกาย ที่จะมีคณะสงฆ์นิกายจีน (พระจีน) และคณะสงฆ์อนัมนิกายพระญวน (พระญวน)

ประเพณีจีน พิธีกงเต็ก คืออะไร

ประเพณีจีน พิธีกงเต็ก จัดเป็นพิธีการทำบุญในการเก็บส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับที่จากไปแล้ว ถือได้ว่าเป็นประเพณีที่มีการสืบทอดกันมาแต่โบราณในยุคโบราณมากกว่าพันปีของชาวจีน ซึ่งจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความกตัญญูที่มีอยู่สูงมาก ที่จะเป็นการแสดงต่อผู้มีพระคุณที่ได้มีการเสียชีวิต หรือจากไปซึ่งในบางครั้งก็อาจจะเป็นการแสดงความอาลัยบอกถึงความรู้สึกของตนเองที่ยังมิอาจได้ปฏิบัติตน หรือดูแลตอบแทนพระคุณของท่านผู้ล่วงลับผู้นั้นได้อย่างเต็ม ที่เหรือเพียงพอจึงจะจัดให้มีการนิมนต์พระสงฆ์ให้มาประกอบพิธี ประเพณีจีน พิธีกงเต็ก ในส่วนนี้ ให้เป็นการกระทำความดีทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับเพื่อเป็นการแสดงความกตัญญู

กำหนดการประกอบ พิธีกงเต็ก ที่เหมาะสม

ในการประกอบ พิธีกงเต็ก ในส่วนนี้จะมีการเริ่มต้นงานพิธีนับจากวันที่ได้มีการเสียชีวิตของผู้ล่วงลับ แล้วนำร่างมาประกอบ ประเพณีจีน ในส่วนนี้ในวันแรก ซึ่งในวันแรกที่จะได้มีงานพิธีนั้นเราจะเรียกว่าชิวอิก และหลังจากนั้นนับไปอีก 7 วันในวันที่ 7 นี้จะถือได้ว่าเป็นวันที่ต้องทำพิธีสวด หรือวันชุกซัวซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีการสวดไทยอยู่ที่ 5 วันทำ พิธีกงเต็ก ในวันที่ 6 ทำงานพิธีชุกซัวในวันที่ 7 โดยในส่วนหนึ่งของ ประเพณีจีน ในการทำ พิธีกงเต็ก ก็จะมีวันต้องห้าม การทำพิธีเรียกว่า เต็งฉิก ซึ่งจะตรงกันกับวันที่มีการกำหนดของ ประเพณีจีน ในวันที่ 7 17 27 ซึ่งจะถึงเรียกว่าในวันที่กล่าวไปนั้นเป็นวันไม่ดีเป็นวันที่ประตูผีได้เปิดออกจะมีดวงวิญญาณอันชั่วร้ายออกมาหากทำการพิจารณา หรือนับดูวันแล้วตรงกับวันอาทิตย์จำเป็นจะต้องทำการเลื่อนกำหนดพิธีการวันฝังเป็นวันที่ 9 โดยจะให้มีการสวด ที่ 7 วัน และทำ พิธีกงเต็ก ในวันที่ 8 ทำพิธีชุกซัวในวันที่ 

ขั้นตอน ประเพณีจีน พิธีกงเต็ก

อย่างที่ท่านไม่ทราบว่าในงาน พิธีกงเต็ก จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 6 ซึ่งจะมีรูปแบบของการสวดอภิธรรมศพตามรูปแบบของประเพณีของชาวพุทธโดยในพิธีการ นั้นจะเริ่มกันตั้งแต่ช่วงเวลา 9.00 น. ยาวจนไปถึงช่วงเวลากลางคืน ซึ่งในงานพิธีในส่วนของลูกหลานจะมีการแต่งกายไว้ทุกข์ ซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปในส่วนของลูกชาย และลูกสาวของผู้วายชนม์ ทั้งยังรวมไปถึง ตั่วซุง นั่นก็คือหลานชายคนแรกที่ได้เกิดจากลูกชายคนโต จะถือได้ว่าเป็นบุตรชายคนสุดท้ายของผู้วายชนม์อีกด้วยเช่นกัน จะมีการแต่งกายในชุดผ้าดิบไว้ด้านใน และสวมทับด้วยผ้ากระสอบชั้นหนึ่งไว้ด้านนอก ในส่วนของญาติพี่น้อง และ ลูกหลานท่านอื่นจะมีการแต่งกายด้วยผ้าดิบ ซึ่งในงานพิธี หรือขั้นตอน ประเพณีจีน พิธีกงเต็ก ก็จะมีขั้นตอนต่าง ๆ

ดังต่อไปนี้

1. คณะสงฆ์จีน หรือตรุษจีนเริ่มพิธีการสวดเปิดมณฑลพิธี โดยจะทำการอัญเชิญพระพุทธเจ้าพระโพธิสัตว์ และเทพยดาฟ้าดินทั้งหลาย ให้มาสถิตเป็นสักขีพยานในการประกอบ พิธีกงเต็ก ณ สถานที่แห่งนี้เพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ และความเป็นสิริมงคล
2. ทำการส่งสารไปเมืองยมโลกด้วยม้า และนก โดยจะมีการแจ้งข่าวการเสียชีวิตไปยังดินแดนสวรรค์ และดินแดนโลกเพื่อเป็นการบอกกล่าวขอให้มีการเปิดทางให้ดวงวิญญาณนั้นได้เดินทางไปได้อย่างสะดวก
3. เชิญดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับให้มาร่วมใน พิธีกงเต็ก ในการชำระดวงวิญญาณ จะเป็นรูปแบบของการนำห้องน้ำกงเต็ก มาวาง ซึ่งภายในห้องน้ำนั้นจะประกอบไปด้วยอ่างขาวใส่น้ำสะอาด ผ้าขนหนูสีขาว สำหรับขั้นตอนในส่วนนี้จะให้พระสงฆ์ทำการสวดเจริญพระพุทธมนต์เพื่อเชิญดวงวิญญาณมาร่วมในพิธี และจะมีการยกโคมวิญญาณ ให้ทางพระสงฆ์ได้ถือไว้ และย้ายมาตั้งทางด้านหน้าเพื่อทำการสวดเชิญดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับให้เข้ามาสถิตอยู่ที่ดวงโคมวิญญาณ ที่แขวนเสื้อของผู้เสียชีวิตเอาไว้ โดยในขั้นตอนนี้ลูกชายคนโตของผู้ล่วงลับจะเป็นผู้เชิญกระถางธูป และลูกชายคนรองจะเป็นผู้ถือโคมวิญญาณไปยังห้องน้ำ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนในการชำระดวงวิญญาณให้สะอาดก่อนที่จะเตรียมตัว พร้อมสำหรับการฟังพระสวด และได้รับของที่ทางลูกหลานได้จัดเตรียมไว้ให้ที่งานพิธี ในขั้นตอนต่อไปทางพระสงฆ์จะจะนำทางกลับไปยังหน้าโต๊ะของผู้ล่วงลับอีกครั้งเพื่อเชิญกระถางธูปกลับเข้าสู่ที่ตั้ง ก็จะเป็นการเสร็จสิ้นพิธีการในส่วนนี้หลังจากนั้นลูกสะใภ้ของลูกชายคนโตของผู้ล่วงลับก็จะทำการยกอ่างน้ำในห้องน้ำกงเต็กไปทำการตาม ประเพณีจีน พิธีกงเต็ก ซึ่งถือได้ว่าเป็นธรรมเนียมจีนโบราณที่สะใภ้จะต้องทำการปรนนิบัติ รับใช้ดูแลพ่อแม่ของสามีทั้งนี้ในกรณีที่ไม่มีลูกสะใภ้ก็สามารถที่จะให้ลูกสาวเพราะหน้าที่ในส่วนนี้แทนได้ในพิธีกรรมในส่วนนี้ จะเป็นการสื่อความหมายถึงการชำระล้างอกุศลกรรมของผู้ล่วงลับที่ได้มีการกระทำไว้ครั้งเมื่อยังมีชีวิตอยู่ทั้งที่ตั้งใจก็ดี หรือไม่ตั้งใจก็ดี
4. ทำพิธีไหว้บรรพบุรุษครั้งเมื่อมีการเสียชีวิต หรือจากตายของคนในครอบครัวจำเป็นจะต้องทำการจุดธูปแจ้งทางสื่อสารให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วนั้นรับรู้ว่าลูกหลานในเชื้อสายของท่านได้มีการถึงแก่กรรม โดยในส่วนนี้จะยังได้มีการจัดเตรียมอาหารไว้รองรับให้บรรพบุรุษได้เป็นผู้ดูแลเสมือนเป็นพี่เลี้ยงในการเดินทางขอดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับซึ่งในขั้นตอนนี้ก็ยังเป็นคติธรรมที่จะสอนให้ลูกหลานได้รับรู้ถึงความกตัญญูกตเวทีที่มีต่อบรรพบุรุษ
5. พิธีบูชาเจดีย์ในพิธีส่วนนี้ทางพระสงฆ์จะทำการสวดมนต์นำดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับนั้นได้เดินเวียนประทักษิณรอบเจดีย์ สำหรับในกรณีที่ผู้ลงรับนั้นเป็นสุภาพสตรีจะให้ใช้สระบัว หรือสระอโนดาตทดแทนกัน โดยขั้นตอนในการกระทำในส่วนนี้จะเป็นการแสดงความเคารพซึ่งการบูชาพระพุทธองค์ และการบูชาพระเจดีย์ ซึ่งในแนวทางพระพุทธศาสนานั้นจะถือได้ว่าพระเจดีย์คือเรียกว่าเป็นสังเวชนียสถาน หรือเป็นเสมือนตัวแทนขอ องค์พระบรมศาสดาเจ้า เช่นเดียวกันกับ พระพุทธเจ้าที่เราควรจะให้ความเคารพนับถือ และบูชากราบไหว้ ทั้งนี้ในความหมายของพิธีบูชาพระเจดีย์นั้น จะเป็นการแฝงคติเตือนใจให้เราได้มีการรำลึกถึงคุณงามความดี หรือถ้าคุณอำนาจของพระรัตนตรัย และองค์พระศาสดาซึ่งท่านทั้งหลายเหล่านั้นควรที่จะเจริญรอยตามแนวทางของพระพุทธองค์
6. วิธีการเดินข้ามสะพานกงเต็ก จะเป็นขั้นตอนในการที่พระสงฆ์จีนจะนำพาดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับนั้นมาส่งยังเขตดินแดนสวรรค์ ที่จะมีในส่วนของลูกหลาน และคนในครอบครัวมาร่วมส่ง และเมื่อส่งวิญญาณผู้ล่วงลับเสร็จสิ้นแล้วก็จะต้องเดินทางกลับโดยในทุก ๆ ครั้งที่ได้มีการเดินข้ามสะพานในส่วนของผู้ร่วมพิธี หรือลูกหลานจะต้องทำการโยนเหรียญสตางค์ลงในอ่างน้ำ ซึ่งจะเป็นการสั่งสอน หรือเป็นคติธรรมที่ใส่เอาไว้ว่าเมื่อเราได้สูญสิ้นไปแล้วนั้นจะสามารถนำไปซึ่งชื่อเสียง หรือทรัพย์สินเงินทองไปด้วยได้นั่นเอง ในส่วนของข้อห้ามที่สำคัญมากที่สุดของงานพิธีในส่วนนี้ในกรณีที่ลูกหลานซึ่งเป็นผู้หญิงท่านใดที่มีรอบเดือนห้ามร่วมพิธีข้ามสะพานส่วนนี้โดยเด็ดขาด แต่จะให้ร่วมพิธีการโดยการเดินอ้อมสะพานแทนเท่านั้น โดยในการเรียงลำดับของผู้ร่วมเดินข้ามสะพานในพิธีส่วนนี้จะเริ่มจาก ทางลูกชายคนโตเป็นผู้นำในการถือกระถางธูป และลูกชายสุดหล่อเป็นผู้ถือดวงวิญญาณ และลูกชายคนเล็กจะทำการถือรูปภาพจากนั้นจึงจะเริ่มตามด้วยในส่วนของลูกสะใภ้ และลูกสาว และตามด้วย ลูกหลานในลำดับต่อไป ทั้งนี้ในส่วนของหลานนั้น จะทำการเรียงลำดับ ตอบลูกของลูกชายก่อนซึ่งเราจะเรียกว่าหลานใน และจะตามด้วยหลานนอกนั้นก็คือลูกของลูกสาว และให้มีการเรียงลำดับตามอายุอีกด้วยเช่นกัน แต่ในกรณีที่มีตั่วซุง ก็จะสามารถเดินตามลูกชายคนเล็กได้ก็ถือได้ว่ามีศักดิ์เท่ากัน หรือมีความหมายของการเป็นแฝดกัน
7. สำหรับในขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นขั้นตอนในการสวดส่งเทพ หรือส่งดวงวิญญาณในการจัดถวายเครื่องกระดาษโดยในส่วนของเครื่องกระดาษนี้จะเป็นการเริ่มต้นด้วยการเผากระดาษเงินกระดาษทองให้แก่ผู้ล่วงลับ และก็จะมีในส่วนของ การเผาบ้านพร้อมที่ดิน เฟอร์นิเจอร์ ทรัพย์สินเงินทองต่าง ๆ และคนรับใช้ที่จะมีการตั้งชื่อให้โดยในส่วนนี้ก็จะเป็นการแสดงความกตัญญูซึ่งสำหรับขั้นตอนในการเผานั้น อาจจะเผาหลังจากงาน พิธีกงเต็ก หรือให้มีการเผาเครื่องกระดาษในส่วนนี้ในวันรุ่งขึ้นพร้อมกันกับพิธีการฌาปนกิจ หรือการเดินทางไปฝั่งนะวงจุ้ยก็สามารถทำได้ซึ่งถือได้ว่าเสร็จสิ้น ประเพณีจีน พิธีกงเต็ก 

ประเพณีจีน พิธีกงเต็ก เป็นวิธีที่มีการสืบทอดกันมาแต่โบราณซึ่งในแต่ละรูปแบบขั้นตอน และวิธีการก็จะมีความหมายที่แตกต่างกันไปในการสื่อถึงเจตนาต่าง ๆ แต่โดยหลักของการปฏิบัติในส่วนที่แล้วนอกเหนือจากการนำพาดวงวิญญาณไปสู่ในภพภูมิที่ดีแล้วก็ยังจะมีการทำให้เหล่าบรรดาลูกหลานได้แสดงความเคารพความกตัญญูที่มีต่อดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับ

ประเพณีจีน พิธีกงเต็ก คือขนบธรรมเนียมที่มีการสืบทอดมาหลายพันปี ในการนำดวงวิญญาณให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี และการอุทิศส่วนกุศลไปให้ทั้งยังเป็นการแสดงออกซึ่งความกตัญญูของเหล่าบรรดาลูกหลานในครอบครัว